วันนี้ (9 ส.ค.2563) กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ได้จัดกิจกรรมขับไล่เผด็จการภายใต้ชื่อ “ม็อบนี้เพื่อเธอ” ณ ห้องโถง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น ผูกโบว์ขาวทั่วมหาวิทยาลัย แสดงละครล้อเลียนถึงการคุกคามประชาชนในพื้นที่ และคงหนี้ไม่พ้นการปราศรัยของนักศึกษาชายแดนใต้ หนึ่งในนั้นคือ คุณซูกริฟฟี ลาเต๊ะ ประธาน สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี
โดยเขาปราศรัยว่า “วันนี้พวกเราทุกคนออกมายืนยันข้อเสนอ 3 ข้อ 2 จุดยืน และ 1 ความฝัน ตั้งแต่เผด็จการพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจ ไม่มีช่วงไหนของปีที่ไม่มีการคุกคามประชาชน ทุกๆ ปีจะมีการคุกคามประชาชนมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน การคุกคามประชาชนถือว่าเป็นเรื่องสนุกสำหรับพวกเขา เป็นเรื่องที่เขาสามารถทำได้ทุกวันและไม่เคยเห็นหัวทุกท่านที่ยืนอยู่ตรงนี้ นั่นคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผมอยากจะถามไปถึงรัฐบาลและคนที่สนับสนุนพวกท่านว่าจะเอากันอย่างนี้จริงๆหรือ พวกท่านจะเอากันอย่างนี้ใช่หรือไม่ การยัดข้อหา การคุกคามและการจับกุม คือ วิธีการที่พวกท่านจะทำให้พวกเรายอมหยุดใช่หรือไม่ แต่วันนี้มันพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ใช่
จงรู้ไว้ว่าประชาชนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีใครเป็นแกนนำ เพราะทุกคน คือ เจ้าของอำนาจประชาธิปไตย ถ้าพวกท่านคิดว่าพี่น้องประชาชนที่ออกมาไล่ท่านวันนี้ คือ คู่ต่อสู้ คือ ศัตรูของท่าน ก็เอาสิ วันนี้พวกเราที่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครกลัวหรอก
คดีความ การคุกคาม ก็เพียงแค่ร่างกาย การอุ้มหาย ก็เพียงแต่ทำให้ตาย ทำได้แค่การเอาชีวิต แต่อุดมการณ์วันนี้มันแบ่งบาน มันกระจายไปทั่วประเทศไทย มันกระจายไปทั่วทุกภูมิภาค มันกระจายไปทั่วแผ่นดิน และนั่น คือ ความจริง
ถ้าท่านคิดว่าวิธีการอย่างนี้ยังใช้ได้อยู่ ผมก็อยากจะบอกประชาชนของผมเหมือนกันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคุกคาม เมื่อไหร่ก็ตามที่เขายัดข้อหา เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอุ้มหาย วันนั้น คือ วันที่เขากำลังกลัวและเป็นวันที่เขากำลังจะแพ้
วันนี้เป็นวันครบรอบ 3 เดือนการเสียชีวิตของคุณต้าวันเฉลิม สิ่งที่ผมเจ็บใจ คือ วันนี้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับชีวิตประชาชน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการหายตัวไปยังลอยหน้าชูคออยู่ในทำเนียบ ยังสั่งซื้อเรือดำน้ำในช้อปปี้
พวกเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องสนุก การฆ่าประชาชนที่ต้องรับผิดอาชญากรรมโดยรัฐเกิดขึ้นมาหลายปีและหนักขึ้นสมัย คสช. จนกลายเป็นวัฒนธรรม ระบบตุลาการ ระบบความยุติธรรมวันนี้ป่นปี้ เละเทะไม่มีอะไรเหลือให้กับประชาชน
บอกพวกเขาดังๆ ว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลง เผด็จการไม่สามารถอยู่ในอำนาจได้ เผด็จการไม่สามารถอยู่คู่กับประชาชนได้ อุดมการณ์ประชาธิปไตยส่งผ่านสังคมสึนามิทางการเมืองและมันจะล้มเรือแป๊ะของพลเอกประยุทธ์จนไม่เหลือ
ทั้งหมดที่ผมพูดถึงวันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเราไม่ร่วมร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จำกัดพรรคการเมือง พรรคการเมืองไม่มีทางมีอำนาจได้ แต่มี 2 พรรคที่มีอำนาจแน่ๆ คือ สว. และกองทัพพรรคทหาร 2 พรรคนี้เท่านั้นที่มีอำนาจ
ถ้าวันนี้เราไม่เปลี่ยนแปลง เราไม่ร่างรัฐธรรมนูญ เราไม่ปิดสวิตช์ สว. เราไม่ปฏิรูปกองทัพ เขาก็จะกลับมาทำรัฐประหารอีก นั่นคือข้อเสนอที่เราคิดว่า ประเทศนี้มันต้องเดินไป
วันที่ 19 นี้ ถนนทุกสายจะมุ่งสู่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์และเราจะไปแสดงให้เขาเห็นว่า ประชาชนไม่มีวันทนอีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะมาพูดกับทุกท่านวันนี้ คือ 2 จุดยืนที่เราไม่ต้องการ
สองสามวันมานี้เราได้กระแสข่าวการทำรัฐประหาร อยู่ดีๆ ก็เห็นกองทัพเอารถถังออกมา แต่เขาก็บอกเราว่า เป็นการฝึกซ้อม ถ้าการรัฐประหารรอบนี้ท่านคิดว่าท่านจะชนะ พวกเราทุกคนก็อยากจะออกไปขัดขวางมัน ประชาชนทุกคนจะไปขวางบนถนน เราจะไปนั่งกันบนถนนให้เขาเหยียบก็ได้ถ้าเขาจะเอาแบบนั้น
ข้าราชการที่คิดว่าประชาชนเป็นเจ้าของภาษี จ่ายเงินเดือนให้กับท่าน ออกมายืนอยู่บนถนนและต่อต้านรัฐประหาร เจ้าของธุรกิจพนักงานบริษัทเอกชนหยุดงานทั้งแผ่นดิน แล้วออกไปขวางกั้นอยู่บนถนน ดูซิว่าเขาจะทำรัฐประหารสำเร็จหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องการจากการต่อสู้ครั้งนี้
อีกประเด็นนึงสองสามวันมานี้มีคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี เสนอบอกว่าจะเอารัฐบาลแห่งชาติ เสนอคนนั้น คนนี้ เพราะวิธีคิดของคนดีที่ไม่เคยเคารพประชาชน ไม่เคารพว่าประชาชนมีวิจารณญาณทางการเมือง ประชาชนเลือกได้ว่าจะเอาผู้แทนแบบไหน แต่คนแบบนี้กลับมาเสนอนายกคนนอก
และผมอยากจะสื่อสารถึงพรรคการเมือง ถ้าพรรคการเมืองไหนที่คิดว่าการประนีประนอมกับอำนาจเผด็จการ การประนีประนอมกับอำนาจนอกระบบ การไปจับมือกับรัฐบาลแล้วตั้งรัฐบาลแห่งชาติ คือวิธีการเอาตัวรอดทางการเมือง ท่านก็ลองดู ผมก็จะรอดูวันที่ประชาชนลงโทษทุกท่าน วันที่ประชาชนทำให้พวกท่านหายสาบสูญไปจากการเมือง มันจะเป็นแบบไหน
วันนี้มีเจ้าหน้าที่มาเยอะเขาบอกว่านายสั่งมา และวันรัฐประหารผมเชื่อว่าพี่ๆเจ้าหน้าที่จะออกไปขวางรถถังเช่นเดียวกัน วันนี้นายสั่งมาให้มาสังเกตการณ์ม็อบ แต่ที่จริงแล้วเขาอยากจะมองม็อบเท่านั้น
วันที่ 19 นี้ใครสะดวกเจอกันที่ธรรมศาสตร์ ถนนทุกสายมุ่งสู่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เราจะยืนกันข้ามวันข้ามคืน เราจะแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ทนต่อเผด็จการอีกแล้ว เผด็จการจงพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ