.
จนท.เรียกตัวผ่านโทรเลข ไม่มีเอกสารประกอบ เพราะเชื่อใจจึงไปตามคำเชิญ พบครั้งสุดท้ายที่มัสยิดในตัวเมืองหาดใหญ่ หลังจากนั้นสาบสูญ ชาวประมงปานาเระเผยถูกนายตำรวจมลายูจ้างวานทิ้ง 4 กระสอบปริศนา
.
จตุรนต์ เอี่ยมโสภา หลานตาของ ฮัจยีสุหลง โต๊ะมีนา ผู้นำจิตวิญญาณปาตานี/จังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการหายสาบสูญของฮัจยีสุหลง ในงานเปิดตัวหนังสืออาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2563 ณ บ้านฮัจยีสุหลง อ.เมือง จ.ปัตตานี ว่า เรื่องการหายตัวไปของคุณตา หรือ ฮัจยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนา ตามศัพท์ทางการ คือ ถูกบังคับให้สูญหาย แต่ถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน คือ ถูกอุ้มหาย
.
ก่อนหน้าวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.2497 เจ้าหน้าที่มีการเรียกตัวฮัจยีสุหลงให้ไปพบ แต่ฮัจยีสุหลงป่วย ไม่สบาย จึงส่งตัวลูกศิษย์ไปแทน แต่เมื่อไม่ใช่เป้าหมาย เจ้าหน้าที่เลยส่งตัวกลับมา ลูกศิษย์ก็แจ้งข่าวกับฮัจยีสุหลงว่า ไปแล้วแต่ไม่มีอะไร
.
หลังจากนั้นมีการเรียกตัวฮัจยีสุหลงไปพบอีกครั้ง ซึ่งมีข้อสังเกตุว่า ทำไมจึงไม่มีหนังสือเอกสารหมายเรียกใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงแค่การเรียกโดยโทรเลขที่ส่งต่อๆ กันมา ซึ่งเป็นการเชื่อใจของฮัจยีสุหลงเองว่า คงไม่มีอะไร จึงตัดสินใจไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกตัวไป
.
ฮัจยีสุหลงได้ชวนลูกศิษย์ฅนหนึ่งไปด้วย แต่ลูกศิษย์ฅนนั้นไม่ไป นึกไปก็คงยังไม่ถึงอายัลของอัลลอฮฺ (ดวงคงยังไม่ถึงคาด)
.
ก็เลยชวนลูกชายฅนโต คือ คุณลุงอะฮฺหมัด โต๊ะมีนา พร้อมด้วยคุณแวสือแม มูฮำหมัด และคุณเจ๊ะอิสเฮาะ ยูโซ๊ะ ซึ่งเป็นทั้งกัลยาณมิตรและเป็นทั้งลูกศิษย์ ทั้ง 4 ฅน จึงตัดสินใจไปด้วยกัน
.
ในบันทึกและคำบอกเล่าของครอบครัวว่า มีฅนพบเห็นบุคคลทั้ง 4 ครั้งสุดท้ายตอนกลางวันที่มัสยิดในตัวอำเภอหาดใหญ่ เพื่อทำการละหมาดดุฮฺรี (มัสยิดตรงตลาดสดใกล้สถานีรถไฟหาดใหญ่) หลังจากนั้นก็หายตัวไปเลย
.
ถามว่ารู้ได้อย่างไรที่พวกเขาทั้ง 4 ฅน ถูกฆ่าตาย คือ หลังจากที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (นายกรัฐมนตรีไทย ฅนที่ 11 (2502-2506)) ได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม (นายกรัฐมนตรีไทย ฅนที่ 3 (2481-2487, 2491-2500)) ในปี 2500
.
โดยส่วนตัวเดิมทีจอมพลสฤษดิ์ และ พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ (2494-2500) ตามบริบทข้อมูลทางประวัติศาสตร์ทั้ง 2 ฅนนี้เป็นมือซ้ายและมือขวาของจอมพลแปลก และเป็นไม้เบื่อ ไม้เมากันไปมา คือ แข่งกันมีอำนาจ แข่งกันโตในทางการเมือง
.
หลังจากจอมพลสฤษดิ์ได้ทำกาารัฐประหารจึงกำจัดคู่ต่อสู้อย่างสิ้นเชิง มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวน ตรวจสอบ และรื้อฟื้นคดีเก่าขึ้นมาใหม่ รวมทั้งคดีการหายตัวไปของทั้ง 4 ฅนนี้ด้วย
.
ปรากฏว่า ตามบันทึกคณะกรรมการทราบว่าใครเป็นฅนสั่ง และผู้ที่ลงมือฆ่าก็สารภาพบาปว่าเป็นฅนลงมือ โดยการรัดคอ ผ่าท้อง และยัดปูนซีเมนต์ใส่เข้าไป เสร็จแล้วมัดใส่กระสอบถ่วงน้ำ
.
จอมพลสฤษดิ์ จึงออกคำสั่งให้มีการค้นหาศพในทะเลบริเวณเกาะหนู เกาะแมว แต่คงไม่พบเจออะไรแน่นอน เพราะทั้ง 4 ฅน ถูกฆ่าตายตั้งแต่ปี 2497 แต่มาค้นหาศพในปี 2500 เวลาผ่านไป 3 ปี คงไม่เจออะไรอยู่แล้ว
.
อัยการเลยตอบมาว่า ไม่สามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ คุณลุงเด่น โต๊ะมีนา (อดีต ส.ส. และ สว.ปัตตานี) บุตรชายอีกฅนของฮัจยีสุหลง จึงดำเนินการแจ้งเป็นบุคคลสูญหายตามกฎหมาย
.
เกร็ดข้อมูลอีกหนึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง คือ ผู้นำกระสอบที่ใส่ศพทั้ง 4 ฅน ไปทิ้งกลางทะเล บริเวณเกาะหนู เกาะแมว กลายเป็นชาวประมงที่เป็นฅนปานาเระ จ.ปัตตานี แต่อาศัยอยู่เก้าเส้ง จ.สงขลา เพราะแต่งงานกับฅนที่นั่น
.
หลังจากที่เขาทราบข่าวการหายตัวไปของฮัจยีสุหลง จึงนึกสงสัยว่า สิ่งที่เขาไปทิ้งกลางทะเลทั้ง 4 กระสอบคืออะไร
.
พอนึกได้เขาจึงรีบมาพบคุณยาย ภรรยาฮัจยีสุหลง เพื่อเปิดเผยในสิ่งที่เขาได้รับการจ้างวานให้ไปทิ้ง
.
คุณยายจึงห้ามเขาออกไปไหน ให้หลบซ่อนอยู่ในบ้าน แต่ด้วยความที่เขาต้องไปรับภรรยาที่ปานาเระและกลับไปสงขลาต่อ จึงต้องออกไป แต่ปรากฏว่า เขาถูกฆ่าตายระหว่างเดินทางกลับในวันเดียวกันกับวันที่มาแจ้งข่าวให้กับครอบครัวเรา
.
เขาชื่อ นายอีซอ คือ ฅนมลายูที่ถูกจ้างวานให้นำกระสอบศพไปทิ้ง และที่น่าตกใจไปกว่านั้น ผู้ที่จ้างวานนายอีซออีกที เป็นนายตำรวจมลายู ยศร้อยตำรวจเอก เป็นฅนจ้างวาน
.
ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง :
[1]https://web.facebook.com/pg/TheMotive2020/photos/?tab=album&album_id=182988050004065
[2]https://web.facebook.com/TheMotive2020/photos/a.102845158018355/181930706776466/?type=3&theater
[3]https://web.facebook.com/TheMotive2020/photos/a.102845158018355/165504291752441/?type=3&theater
[4]https://web.facebook.com/TheMotive2020/photos/a.102845158018355/158986252404245/?type=3&theater
[5]https://web.facebook.com/TheMotive2020/photos/a.102845158018355/147640953538775/?type=3&theater
[6]https://web.facebook.com/TheMotive2020/photos/a.102845158018355/182802290022641/?type=3&theater
.